ขีปนาวุธ

คณะเสนาธิการทหารร่วมของเกาหลีใต้ ออกมาแถลงว่าเกาหลีเหนือ ได้ทำการทดสอบยิงขีปนาวุธข้ามทวี

จากรายงานระบุว่า เกาหลีเหนือ ได้ทำการยิงขีปนาวุธพิสัยใกล้ จำนวณ 2 ลูก และขีปนาวุธพิสัยไกลอย่างน้อย 1 ลูก ซึ่งการกระทำในครั้งนี้ ถือว่าเป็นการทดสอบ ระดมยิงขีปนาวุธอย่างต่อเนื่อง มาตลอดจนถึงตอนนี้รวมมากกว่า 10 รูป และจุดตกใกล้บริเวณชายฝั่ง ประเทศเกาหนีใต้ เพียงแค่ 56 กิโล

ด้านคณะเสนาธิการทหารร่วม ของเกาหลีใต้ ได้ออกมายืนยันแล้วว่า ได้ทำการตรวจสอบพบ มีการยิงขีปนาวุธจากเกาหลีเหนือ ไม่ต่ำกว่า 3 ลูก ด้านนายฟูมิโอะ คิชิดะ นายกรัฐมนตรีของญี่ปุ่น ได้ออกมากล่าวว่า มีความเป็นไปได้ที่ทางเกาหลีเหนือ อาจมีการทดสอบยิงขีปนาวุธข้ามทวีป อีกก้เป็นไปได้

การทดสอบยิงขีปนาวุธครั้งนี้ของเกาหลีเหนือ ทำให้ทางการญี่ปุ่นต้องประกาศอพยพประชาชนฉุกเฉิน ในพื้นที่ทางตอนเหนือของญี่ปุ่น ขีปนาวุธลูกหนึ่งของเกาหลีเหนือดูเหมือนจะพุ่งผ่านญี่ปุ่น แต่รัฐมนตรีกลาโหมญี่ปุ่นออกมายืนยันในภายหลังว่า ขีปนาวุธไม่ได้ผ่านน่านฟ้าของญี่ปุ่นแต่อย่างใด

เมื่อเดือนที่แล้ว เกาหลีเหนือได้ทดสอบยิงขีปนาวุธพาดผ่านญี่ปุ่นเป็นครั้งแรกในรอบ 5 ปี การทดสอบยิงขีปนาวุธอย่างต่อเนื่องของเกาหลีเหนือ มีขึ้นในช่วงที่สหรัฐฯ และเกาหลีใต้กำลังซ้อมรบครั้งใหญ่ทางอากาศ ซึ่งเกาหลีเหนือต่อต้าน โดยมองว่า เป็นการยั่วยุอย่างรุนแรง

ขีปนาวุธ
เกาหลีเหนือ-เกาหลีใต้ ยิงขีปนาวุธโต้ตอบ

วานนี้ (2 พ.ย.) เมื่อเวลา 9:00 ตามเวลาท้องถิ่น เกาหลีเหนือทดสอบยิงขีปนาวุธอย่างน้อย 10 ลูก ข้ามเส้นแบ่งเขตระหว่างเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้ เข้าไปยังน่านน้ำใกล้ชายฝั่งเกาหลีใต้ ขีปนาวุธอย่างน้อย 1 ลูกของเกาหลีเหนือ ตกลงใต้เส้นแบ่งเขตแดนทางของฝั่งเกาหลีใต้เพียง 26 กิโลเมตร และตกลงห่างจากเมืองซกโช ทางตะวันออกเฉียงเหนือของเกาหลีใต้ เพียง 56 กิโลเมตร

การยิงขีปนาวุธของเกาหลีเหนือ ส่งผลให้ทางการบนเกาะอุลลึงโด ทางตะวันออกของเกาหลีใต้ ต้องเปิดสัญญาณเตือนภัยให้ประชาชนอพยพเข้าไปยังหลุมหลบภัย เพราะขีปนาวุธของเกาหลีเหนือ มีลักษณะการยิงพุ่งไปยังเกาะอุลลึงโดอย่างมีนัยสำคัญ โดยลูกหนึ่งตกห่างจากเกาะ 167 กิโลเมตร

เกาหลีใต้และญี่ปุ่น ต่างตรวจจับการยิงขีปนาวุธของเกาหลีเหนือได้ พร้อมออกแถลงการณ์ประณามอย่างรุนแรง ประธานาธิบดียุน ซ็อก-ยอล ของเกาหลีใต้ ระบุว่า การยิงขีปนาวุธครั้งนี้ของเกาหลีเหนือถือเป็น “การรุกรานอาณาเขตอย่างเห็นได้ชัด” แม้ว่าขีปนาวุธจะตกนอกน่านน้ำอาณาเขตของเกาหลีใต้ก็ตาม โดยผู้นำเกาหลีใต้ยังประกาศจะตอบโต้อย่างรวดเร็วและแข็งกร้าว

ภายหลังจากนั้น 3 ชั่วโมง เกาหลีใต้ได้ยิงขีปนาวุธแบบอากาศสู่พื้นดิน 3 ลูก ข้ามเส้นแนวจำกัดตอนเหนือ โดยขีปนาวุธตกลงไปยังอีกฝั่งของแนวจำกัดตอนเหนือ ใกล้กับชายฝั่งเกาหลีเหนือ ภายใต้กฎหมายสากล ประเทศต่าง ๆ สามารถอ้างกรรมสิทธิ์เหนือน่านน้ำในอาณาเขต 12 ไมล์ทะเลนอกชายฝั่งได้ แต่ครั้งนี้ ถือว่าเกาหลีเหนือ ยิงขีปนาวุธตกลงใกล้ชายฝั่งเกาหลีใต้มากที่สุด และทั้งปีนี้

เกาหลีเหนือได้ทดสอบยิงขีปนาวุธมาแล้วกว่า 50 ลูก และมีครั้งหนึ่งเป็นการยิงขีปนาวุธ พาดผ่านน่านฟ้าทางตอนเหนือของญี่ปุ่นด้วย เมื่อวันอังคาร (1 พ.ย.) เกาหลีเหนือเตือนว่า เกาหลีใต้และสหรัฐฯ จะต้องชดใช้อย่างสาสม หากยังเดินหน้าซ้อมรบร่วมครั้งใหญ่ ซึ่งมีเป้าประสงค์เพื่อรับมือการโจมตีด้วยอาวุธนิวเคลียร์จากเกาหลีเหนือ

โดยเมื่อวันจันทร์ (31 ต.ค.) เรือดำน้ำขับเคลื่อนพลังนิวเคลียร์ของสหรัฐฯ ได้เคลื่อนเข้ามาถึงนอกชายฝั่งเกาหลีใต้ เพื่อร่วมการซ้อมรบที่เริ่มมาตั้งแต่เดือน ส.ค. รัฐบาลสหรัฐฯ และเกาหลีใต้คาดการณ์ว่า เกาหลีใต้ใกล้จะกลับมาทดสอบอาวุธนิวเคลียร์อีกครั้ง หลังหยุดทดสอบมานาน 5 ปี โดยหน่วยข่าวกรองสหรัฐฯ และเกาหลีใต้ระบุว่า

ตอนนี้ เกาหลีเหนือเตรียมความพร้อม ทดสอบอาวุธนิวเคลียร์เสร็จเรียบร้อยแล้ว การยิงขีปนาวุธโต้ตอบกันไปมา แม้จะตกลงนอกน่านน้ำอาณาเขตของทั้งสองประเทศ เกิดขึ้นในช่วงที่เกาหลีใต้กำลังไว้อาลัยทั่วประเทศ ต่อโศกนาฏกรรมเบียดเสียดกันเสียชีวิตในย่านอิแทวอน เมื่อวันที่ 29 ต.ค. ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิต 156 คน

คิม จอง-อึนกำลังทำอะไรอยู่

มีเหตุผลสามประการที่เกาหลีเหนือจะยิงขีปนาวุธ นั่นคือ หนึ่ง เพื่อทดสอบและปรับปรุงเทคโนโลยีอาวุธของตน สอง เพื่อส่งข้อความทางการเมืองไปทั่วโลก (โดยหลักคือสหรัฐฯ) และสาม เพื่อสร้างความประทับใจให้ประชากรเกาหลีเหนือและสนับสนุนความจงรักภักดีต่อระบอบการปกครอง อาจเป็นเรื่องยากที่จะถอดรหัสว่าการกระทำต่างๆ ของเปียงยางนั้นมีเป้าหมายอะไรกันแน่

แต่สิ่งที่เกิดขึ้นในคราวนี้ นายคิมแสดงความประสงค์ที่ชัดเจน สื่อของรัฐบาลเกาหลีเหนือรายงานหลายครั้งว่า การยิงขีปนาวุธและการซ้อมรบระลอกครั้งล่าสุด เป็นการตอบโต้การซ้อมรบใหญ่ระหว่างสหรัฐฯ เกาหลีใต้ และญี่ปุ่น เกาหลีเหนือตำหนิศัตรูที่เพิ่มความตึงเครียด และการปล่อยขีปนาวุธเหล่านี้ ถือเป็นคำเตือนที่ชัดเจน ว่าพวกเขาควรหยุดสหรัฐฯ

เกาหลีใต้ และญี่ปุ่น จัดซ้อมรบขนาดใหญ่ในช่วงสองเดือนที่ผ่านมา ที่มีทั้งแบบแยกกันและร่วมกัน เพื่อแสดงความพร้อมรับมือการโจมตีด้วยนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือไม่ต้องสงสัยเลยว่า การกระทำของมหาอำนาจเหล่านี้ ยิ่งสร้างความโกรธเคืองให้คิม จอง-อึน ที่มองว่าการซ้อมรบลักษณะนี้ เป็นการซ้อมรบเพื่อเตรียมรุกรานเกาหลีเหนือ

และเหตุผลที่เกาหลีเหนือต้องพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ก็เพื่อป้องกันการรุกรานนั่นเอง อีกเหตุผลที่ยังไม่ชัดเจนนัก ถึงการเพิ่มความตึงเครียดในครั้งนี้ของผู้นำเกาหลีเหนือ คือ บางคนเชื่อว่าเขาอาจกำลังเตรียมความพร้อมสำหรับการทดสอบที่ทวีความยั่วยุมากขึ้น อาทิ การทดสอบระเบิดนิวเคลียร์ครั้งแรกในรอบ 5 ปี หรือการบุกโจมตีเกาหลีใต้ในขนาดย่อม

ปีที่แล้ว คิม จอง-อึน ได้ประกาศแผนยุทธศาสตร์ 5 ปีต่อจากนี้ ลงรายละเอียดเกี่ยวกับอาวุธใหม่ทั้งหมดที่เขาวางแผนจะพัฒนา รวมถึงระเบิดนิวเคลียร์ในสนามรบที่มีขนาดเล็กลง จากนั้นเขาก็สัญญาว่าจะเดินหน้าโครงการอาวุธนิวเคลียร์ของประเทศด้วย “ความเร็วสูงสุด” และการทดสอบล่าสุดเป็นเครื่องพิสูจน์แล้วว่าเขากำลังดำเนินการตามสิ่งที่ต้องการทำ

ขอบคุณแหล่งที่มา : bbc.com

สามารถอัพเดตข่าวสารเรื่องราวต่างๆได้ที่ : babe369.com